ต้นโป๊ยเซียน ต้นไม้มงคล
เรื่อง….”ปลายปีก”
ข้อมูล…คุณประเสริฐ พุ่มแก้ว
ในบรรดาไม้ดอกไม้ประดับที่กำลังฮิตหรือมาแรงสุดขีดในวงการพันธุ์ไม้บ้านเราในขณะนี้คงหนีไม่พ้นโป๊ยเซียน
มีผู้นิยมเล่นโป๊ยเซียนมากขึ้นทั่วประเทศ เห็นได้จากการประกวดโป๊ยเซียนทั่วประเทศ
และพันธุ์โป๊ยเซียนที่เกิดขึ้นใหม่ ๆในวงการ สมัยก่อนโป๊ยเซียนอาจจะเป็นเพียงไม้เสี่ยงทายสำหรับผู้ปลูกเลี้ยงว่าจะมีโชคดีหรือตกต่ำเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นไม้แห่งโชคลาภดังตำนานไปแล้ว
ในวงการโป๊ยเซียนหลายต่อหลายคนตั้งตัวได้ภายในเวลาไม่นานนักก็เพราะราคาของโป๊ยเซียนเข้าขั้นไม้เศรษฐีเลยทีเดียว
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะพบว่าผู้คนหันมานิยมปลูกโป๊ยเซียนเพื่อการค้ามากขึ้น
อีกทั้งโป๊ยเซียนเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงและขยายพันธุ์ง่าย หากผสมได้ลูกไม้ใหม่และคนนิยมแล้วล่ะก็เห็นเม็ดเงินเลยทีเดียว คุณประเสริฐ
พุ่มแก้ว เป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลในตำนานโป๊ยเซียน
เริ่มปลูกโป๊ยเซียนจากความเชื่อและความสวยงามของดอกจนกลายเป็นอาชีพไปในที่สุด
คุณประเสริฐคลุกคลีอยู่ในวงการโป๊ยเซียนจะมีบทบาทโดดเด่นในวงการพันธุ์ไม้เสียอีก
เดิมทีเดียวคุณประเสริฐเป็นครูสอนเกษตรอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งหนึ่ง
ได้ทดลองผสมและขยายพันธุ์โป๊ยเซียนจนกระทั่งได้ลูกผสมพันธุ์ใหม่ขึ้นมา
ตั้งชื่อว่า “เพชรชมภู” เมื่อประมาณปี 2526-27
คงไม่ต้องพูดถึงกันว่าดังขนาดไหนในสมัยนั้น ราคาขายตกกิ่งละประมาณ 500
บาท คุณประเสริฐตั้งหน้าตั้งตาขยายพันธุ์ไม้ต้นนี้อย่างเต็มที่
ได้เงินจากการขายมากทีเดียว
แต่ปัจจุบันไม่ค่อยพบไม้ต้นนี้ในท้องตลาดเท่าไรนัก สาเหตุก็เพราะเป็นไม้ที่ชำกิ่งยากพอสมควร
แต่เรื่องความนิยมนับได้ว่าอมตะเลยทีเดียว และจากการที่ไม้เพชรชมภูชำยากนี้
คุณประเสริฐเลยเปลี่ยนวิธีการชำเป็นเสียบกิ่งโดยใช้ต้น “แดงอุดม”
เป็นตอ
นับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้การขยายพันธุ์โป๊ยเซียนพัฒนาไปสู่การเสียบกิ่งอย่างกว้างขวางจนทุกวันนี้และ
“แดงอุดม” ที่คุณประเสริฐตั้งชื่อก็กลายเป็นไม้ตอต้นดังขายดิบขายดีมาจนทุกวันนี้เช่นกัน
คุณประเสริฐนับเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการโป๊ยเซียนไม่น้อย
ปัจจุบันยังคงผสมและขยายพันธุ์โป๊ยเซียนเพื่อให้ได้ลูกผสมพันธุ์ใหม่ ๆ
ออกสู่วงการเสมอ
อีกทั้งยังเป็นประธานในการตัดสินการประกวดโป๊ยเซียนแห่งประเทสไทยอีกด้วย
จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอเคล็ดลับการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนของคุณประเสริฐมาฝากกัน
การปลูกและการดูแลรักษา
คุณประเสริฐกล่าว่า
“โป๊ยเซียนเป็นไม้เล่นไม่ยาก
แต่ผู้เล่นโป๊ยเซียนหน้าใหม่ในวงการมักเจอกับปัญหาสุมอกหลายประการด้วยกันเช่น
ไม้ไม่ออกกิ่งหรือออกดอก หรือออกดอกแล้วดอกเล็กกว่าของคนอื่น ซึ่งปัญหาเหล่านี้น่าจะแก้ไขได้โดยง่าย หากบรรดาผู้ปลูกเลี้ยงเก่า
ๆ
จะช่วยกันให้คำแนะนำแก่สมาชิกใหม่พวกนี้กลัวว่าถ้าสอนให้คนอื่นเก่งแล้วอีกหน่อยก็จะมาเป็นคู่แข่ง
ตรงนี้แหละที่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาวงการให้ก้าวหน้า” คุณประเสริฐแนะนำการปลูกเลี้ยงว่า
วัสดุปลูก :
จะใช้ส่วนผสมของดินใบก้ามปู กาบมะพร้าวสับเล็ก ๆ ปุ๋ยคอก(มูลวัว)
อัตราส่วน 1:1:1 เวลาปลูกใช้กาบมะพร้าวสับชิ้นใหญ่ ๆ
รองก้นกระถางประมาณหนึ่งในสี่ส่วนที่เหลือใช้ดินผสม
ดินผสมควรผสมสารเคมีกันเชื้อราลงไปด้วยเล็กน้อย
โรงเรือน:
ในการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียน โรงเรือนนับว่ามีความสำคัญไม่นอ้ยเลย
พื้นโรงเรือนต้องเป็นพื้นยกสูงจากพื้นดิน ต้องโปร่งอากาศถ่ายเทได้ดี ใช้ไม้ระแนงตีให้เกิดร่องพรางแสงด้วยซาแลน
60℅ ถ้าเป็นไม้ขนาดเล็กเพิ่งย้ายปลูกต้องพรางแสงมากถึง
80℅ หรือพักในร่มสัก 2-3
วัน เมื่อตั้งตัวได้แล้วจึงนำเข้ามาปลูกในโรงเรือนปกติ
ไม้ที่ให้ดอกควรพรางแสง 40-50℅
เพื่อให้ดอกมีคุณภาพดี
การให้ปุ๋ยและอาหารเสริม:
ควรใช้ปุ๋ยออสโมโค้ทสูตร 16-4-6 หรือ 16-8-8
รองก้นกระถาง เมื่อปลูกเสร็จให้รดด้วยสตาร์ทบี-1
จะทำให้รากเดินเร็ว และทำให้โป๊ยเซียนตั้งตัวได้เร็วขึ้น
สำหรับไม้ที่ทำกิ่งจะเสริมด้วยปุ๋ยนาเซอร์สสูตร 15-5-5 (หรือสูตรตัวหน้าสูง) เพื่อบำรุงต้นและใบ
ถ้าเป็นไม้ทำดอกจะใช้ปุ๋ยนาเซอร์สสูตร 9-18-9 ราดลงดินประมาณ
4-5 ครั้ง เมื่อเห็นตุ่มดอกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสูตร 0-0-30
เพื่อบำรุงดอกโดยให้พร้อมปุ๋ยสูตร 15-5-5 เพื่อบำรุงก้านดอกราดลงดิน
1-2 ครั้ง จะทำให้ได้ดอกขนาดใหญ่และสมบูรณ์ ก้านดอกแข็งแรง
สำหรับเรื่องการให้ปุ๋ยแต่ละคนก็จะมีเทคนิคแตกต่างกันไปจึงไม่ตายตัว
การให้แสง:
สำหรับในไม้ทำกิ่งหรือไม้ต้นเล็ก จะเร่งการเจริญเติบโตโดยใช้หลอดไฟ 60
วัตต์ เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน จะทำให้ไม้ต้นเล็กเจริญเติบโตเร็ว
การเปลี่ยนดินปลูก:
เมื่อปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนไปได้นานประมาณ 6-12 เดือน
ควรทำการเปลี่ยนดินเสียใหม่เพราะดินเริ่มจืดอาหารในดินมีน้อย
ปุ๋ยเคมีที่ใส่จะทำให้ดินแข็งและกลายเป็นกรด
ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับต้นโป๊ยเซียนจึงต้องเปลี่ยนกระถางให้ใหญ่ขึ้นตามลำดับให้สัมพันธ์กับขนาดและความสูงของต้น
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนดินปลูกจะรดด้วยสตาร์ทบี-1 ทุกครั้ง
การขยายพันธุ์: การขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธีด้วยกัน คือ
1.
การชำ คุณประเสริฐบอกว่าการชำในน้ำดีกว่าชำในวัสดุอื่น
ๆ วิธีการชำก็ตัดกิ่งที่มีขนาดยาวประมาณ 4 นิ้ว
ชุบด้วยฮอร์โมนเซราดิกซ์ เบอร์ 2 ทิ้งไว้ให้แห้งอาจจะเป็นวันเลยก็ได้
จากนั้นนำไปชำในขวดน้ำให้กิ่งแช่ในน้ำประมาณ
1
นิ้ว ตั้งไว้ในร่ม ประมาณ 15 วัน
กิ่งชำก็จะออกราก คุณประเสริฐแนะนำว่า “เมื่อโป๊ยเซียนเริ่มสร้างฐานรากซึ่งจะมองเห็นเป็นตุ่มเล็ก
ๆ สีขาว ให้นำไปปลูกได้เลย
ถ้ารอให้รากยาวมากแล้วนำไปปลูกหมวกรากจะหักทำให้ต้นโตช้า หากปักชำในวัสดุอื่นเช่น ดิน ทราย ขี้เถ้าแกลบ จะออกรากช้ากว่าคือประมาณ 15-21
วัน และโอกาสที่ต้นจะเน่าตายสูงมาก”
2.
การเสียบยอด วิธีใช้นี้เพื่อเพิ่มจำนวนโป๊ยเซียนที่มีราคาแพง
การเสียบกิ่งและความรู้เกี่ยวกับโป๊ยเซียนนี้
คุณประเสริฐเล่าว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้ใหญ่ปรีชาคุณพ่อของคุณประนอมซึ่งเป็นเล้าโป๊ยเซียนเก่าแก่และเล้าใหญ่ที่สุดเล้าหนึ่งที่คนในวงการรู้จักกันเป็นอย่างดี
การเสียบยอดนั้นจะใช้ต้นตอ “แดงอุดม” เนื่องจากหาอาหารเก่ง
ต้านทานโรคดี และเยื่อเจริญติดง่ายกว่าพันธุ์อื่น
การเสียบยอดทำโดยการผ่าต้นตอให้เป็นรูปตัววี จากนั้นก็บากกิ่งที่ต้องการให้เป็นลิ่มเสียบลงไป
มัดด้วยเทป แล้วนำถุงพลาสติกมาครอบไว้
คุณประเสริฐแนะนำให้ใช้ขวดพลาสติกของน้ำอัดลม (ขวด 2 ลิตรป
ที่ตัดคอขวดออกมาครอบแทนถุงพลาสติก ซึ่งสามารถซื้อขวดน้ำได้จากรถขยะขวดละ
1 บาทเท่านั้น เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก
และรวดเร็วกว่าการใช้ถุงพลาสติกเมื่อต้องการเสียบยอดให้ได้ปริมาณมาก จากนั้นนำต้นที่เสียบยอดพักในร่มประมาณ 7 วัน
กิ่งพันธุ์ดีที่เสียบยอดไว้ก็จะติด จากนั้นเปิดขวดออกนำไปเลี้ยงในโรงเรือนต่อไป
มีข้อควรระวังคือ ก่อนเสียบยอด 3 วันไม่ต้องรดน้ำต้นตอ
เพราะรากอาจเน่าได้เมื่อครอบขวดพลาสติกและในต้นที่เตรียมกิ่งไว้เสียบต้องงดปุ๋ยประมาณ
2 สัปดาห์
3.
การเพาะเมล็ดและการผสมพันธุ์ นับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกิดโป๊ยเซียนต้นใหม่ที่เรียกกันว่า
ลูกไม้ใหม่ คุณประเสริฐแนะนำว่าก่อนอื่นต้องคัดเกรดไม้ก่อน เลือกพ่อ-แม่พันธุ์ที่มีลักษณะดี
สำหรับต้นที่ดอกสวยแต่ติดเมล็ดยากก็นำมาเป็นพ่อพันธุ์
ต้นที่ติดเมล็ดง่ายนำมาเป็นแม่พันธุ์ ระยะที่พร้อมผสมก็คือเกสรตัวเมียจะมีน้ำเหนียว
ๆ เยิ้มออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนเวลาประมาณ 7-9 โมงเช้า
เกสรตัวผู้ที่แก่จะเป็นขุย การผสมพันธุ์ใช้พู่กันเขี่ยละอองเกสรตัวผู้ไปติดกับเกสรตัวเมียที่เยิ้ม
ประมาณ 7-8 วันดอกจะเหี่ยวและเริ่มมีผักที่กลางเกสร ประมาณ 4
สัปดาห์ต่อมาเมล็ดแก่จะลอยออกมาเหนือดอก ต้องรีบเก็บเมล็ด
หรือเอาถุงเล็ก ๆ ไปคลุมไว้ เมื่อฝักแตกเมล็ดจะได้ไม่หล่นหาย
นำเมล็ดไปเพาะในวัสดุเพาะคือ ทราย ขี้เถ้าแกลบ และขุยมะพร้าว อัตรา 1:1:1 วางกระบะในที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำพอชุ่มทุกวัน
ประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นออกมา
หลังจากต้นกล้าเติบโตในกระบะเพาะประมาณเดือนเศษ ๆ ก็แยกลงปลูกในกระถางได้แล้ว อีก 4-5
เดือน ต่อมาก็จะเริ่มทยอยออกดอก คราวนี้ล่ะก็ลุ้นกันใจจดใจจ่อกันทุกวันเลยว่า
ต้นนี้ดอกจะใหญ่จะสวยไหม เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว
อันนี้ก็เป็นเรื่องของดวงกันแล้วล่ะ บางครั้งก็ต้องรอฟรีกันถึงครึ่งปี
ดังนั้นจึงต้องขยันผสมพันธุ์กันหน่อยคงมีสักต้นที่มีลักษณะตามที่ต้องการ
การทำดอกให้เป็นกิ่ง..ความลับที่ไม่มีใครอยากเปิดเผย
คุณประเสริฐบอกว่า
การทำดอกให้เป็นกิ่งเป็นเทคนิคสำหรับเพิ่มจำนวนกิ่งให้มีปริมาณมาก
โดยใช้วีทำให้ดอกออกเป็นกิ่งแซมขึ้นมา โดยใช้สาร
บีเอ (BA) หรือสารกลุ่มไซโตไคนิน คุณประเสริฐแอบกระซิบว่า “หาซื้อได้แถว ๆ
ร้านเคมีเกษตรหน้ามหาวิทยาลัยเกษตาศาสตร์” นำสารนี้ในรูปครีม(ลาโนลิน)
ป้ายที่ก้านดอกและใต้กลีบดอกบาง ๆ
เมื่อสารบีเอออกฤทธิ์มันจะเร่งให้เกิดการสร้างตาแตกกิ่งขึ้นมาที่บริเวณรอยต่อของกลีบดอก
สามารถนำไปเสียบยอดได้
ที่สำคัญถ้าจะใช้วิธีนี้ต้องทำให้ไม้สมบูรณ์มาก ๆ
นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อวงการโป๊ยเซียนไม่น้อยเลย โดยเฉพาะกับไม้ที่ให้กิ่งยาก ถ้าจะให้ดีใช้กิ่งจากตากิ่งข้างลำต้นจะให้กิ่งที่มีคุณภาพดีกว่า
แต่จำนวนกิ่งอาจน้อยกว่า ซึ่งสามารถเร่งให้แตกกิ่งข้างโดยป้ายสารบีเอ
(BA) ที่บริเวณตากิ่งข้างลำต้น ตานั้นก็จะแตกกิ่งออกมา
นำไปเสียบยอดได้เช่นเดียวกัน เคล็ดลับข้อนี้แหละที่คนในวงการปิดกันนักหนาล่ะ..
โป๊ยเซียนยังครองความนิยมในตลาดอีกนาน
คุณประเสริฐบอกว่า
“ปัจจุบันคนหันมาเล่นโป๊ยเซียนกันทั่วประเทศ
ดูได้จากการประกวดโป๊ยเซียนที่ผมไปตัดสินจะแทบทุกจังหวัดอยู่แล้ว
ตลาดยังไปได้อีกไกล
เพราะไม่เหมือนต้นไม้ต้นอื่นตรงที่มีลูกไม้แปลกใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ไม่เคยหยุดอยู่กับที่” ลักษณะโป๊ยเซียนที่ตลาดต้องการจะต้องมีดอกใหญ่ระดับ
4-6 เซนติเมตรเลยทีเดียว รูปทรงดอกต้องดี
เรียบกันเป็นระเบียบ ฟอร์มดอกหนา ลำก้านดอกใหญ่ ก้านส่งดอกสูงกว่ายอด เส้าเกสรใหญ่
เป็นสีที่เกิดใหม่ หรือสีแฟนซี เช่น สีม่วง ดำ ขาว ฟ้า ฯลฯ
ไม้ที่ยังมีความนิยมอมตะก็มีเพชรน้ำหนึ่ง
เพชรชมภู นายเมือง ปู่เจ้า สาวเอเซีย พรรณราย อัญมณี
และที่กำลังดังในขณะนี้ก็เห็นจะเป็นทรัพย์ประเสริฐ เทพอรชุน นายทองเหม็น
หนึ่งในจักรวาล ประเภทกำแพงเมืองจีนก็ต้องยกนิ้วให้เจ้าเซียนและเจ้ายุทธิ์
สาเหตุที่ไม้ได้รับความนิยมและมีราคาแพงนั้น คุณประเสริฐบอกว่า “มักจะเป็นไม้ที่ติดประกวดบ่อย ๆ
ติดอันดับยอดเยี่ยมเสมอ
เพราะคนเล่นโป๊ยเซียนจะนิยมไม้ที่ติดประกวดและจะมีการซื้อขายลิขสิทธิ์กันด้วย
ราคาที่แพงขึ้นหลักแสน เรียกว่าแทบตั้งตัวได้ว่างั้นเถอะ” ไม้ที่ดัง
ๆ ขณะนี้ต้นสูงไม่กี่นิ้วก็ขึ้นหลักหมื่นกันแล้วยังไม่เห็นดอกเลย
เมื่อเห็นราคาแล้วก็เร่งพันธุ์ใหม่ ๆ ส่งเข้าประกวดกันนะ
คนดวงดีอาจจะเป็นท่านก็ได้
สะสมโป๊ยเซียนต่างประเทศเหมือนกัน
ในต่างประเทศก็เริ่มนิยมโป๊ยเซียนเหมือนกัน
คุณประเสริฐสะสมโป๊ยเซียนของประเทศฮอลแลนด์ เคนยา
และญี่ปุ่นไว้หลายต้น “ของเขาจะเด่นกว่าของเราในเรื่องของลำต้นและดอกซึ่งมีขนาดใหญ่
สีสดสวย และสีแปลก อย่างโป๊ยเซียนของเคนยาดอกสีเทาเกือบดำ ถ้าอยู่ในเขตหนาวจะเป็นสีฟ้า เกสรตัวผู้จะลอยออกมาข้างนอก
เป็นลักษณะเด่นที่ไม่มีในบ้านเรา
ผมลองนำพันธุ์ของเคนยาผสมกับเจ้าสัวซึ่งมีดอกสีแดงและผสมกลับอีกครั้ง
ปรากฎว่าให้ลูกผสมดอกสีม่วง แต่ขนาดดอกยังเล็กอยุ่ยังไม่เป็นที่พอใจก็จะลองผสมพันธุ์ไปเรื่อย
ๆ”
โป๊ยเซียนส่งออกยังมีปัญหาแต่อนาคตน่าจะสดใส
คุณประเสริฐให้ความเห็นว่า
“โป๊ยเซียนของต่างประเทศยังพัฒนาสู้ของไทยไม่ได้
ตลาดต่างประเทศจึงต้องการโป๊ยเซียนบ้านเรามากเช่นญี่ปุ่น เกาหลี เคนยา บรูไน
โดยจะส่งออกในรูปของการล้างราก เพราะประเทศเขาไม่ยอมให้ดินของเราเข้าประเทศ
ต่างประเทศจะกำหนดพันธุ์ ราคา ขนาด และจำนวนมายังเรา แต่ปริมาณในบ้านเรายังมีน้อยและราคาขายในบ้านเราสูงมาก
ต่างประเทศเขาให้ราคาเราต่ำมากจนขายไม่ได้
ถ้าจะพัฒนาการส่งออกต้องมีการรวมกลุ่มกันในรูปสหกรณ์ และต้องพัฒนาในเรื่องการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยวและการขนส่งเพราะมีบางต้นเน่าตายก่อนจะถึงประเทศลูกค้าและหนามโป๊ยเซียนก็เป็นปัญหาหนึ่ง
เพราะหนามจะแทงกันเอง ทำให้โป๊ยเซียนบอบช้ำมาก
ถ้าพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ ผมเชื่อว่าอนาคตการส่งออกโป๊ยเซียนสดใสกว่านี้แน่นอน”
โป๊ยเซียน…ไม้แห่งโชคลาภจริง ๆ
โป๊ยเซียนที่เกิดจากการผสมพันธุ์และได้พันธุ์ใหม่
ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยฝีมือคุณประเสริฐมีอยู่หลายพันธุ์
ที่นิยมในปัจจุบันก็คือ กำแพงเมืองจีน เจ้าเซียน และเจ้ายุทธ์
นับเป็นแบบฉบับของกำแพงเมืองจีนที่มีรูปทรงงดงามมาก ราคาแพงและหายาก
ขณะนี้คุณประเสริฐกำลังขยายพันธุ์โป๊ยเซียนดอกหอมที่ชื่อ ราชินีกลิ่นหอม
อยู่ซึ่งได้มาโดยบังเอิญ เมื่อสังเกตเห็นแมลงมาดมมากกว่าต้นอื่น
พอเข้าไปดมดูบ้าง ปรากฎว่าดอกมีกลิ่นหอม
ขณะนี้ยังหวงพันธุ์อยู่ไม่เอาออกตลาดมากนัก และตั้งราคาไว้สูง
คุณประเสริฐส่งท้ายถึงโป๊ยเซียนว่า “โป๊ยเซียนเป็นไม้แห่งโชคลาภจริงๆ
เพราะโป๊ยเซียนทำให้ผมมีบ้าน มีรถยนต์ และมีความเป็นอยู่ที่สบายขึ้นมาก”
เรื่องของการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียน
นับเป็นเรื่องที่มีความยาวพอสมควร ขอฝากข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงโป๊ยเซียนพันธุ์ดัง
ๆ ไว้สักนิดว่า
ให้สอบถามและสังเกตลักษณะประจำพันธุ์ให้ดีก่อนซื้อเพราะบางครั้งอาจจะถูกหลอกได้
ราคาโป๊ยเซียนก็ไม่ใช่ถูก ๆ เสียเงินเสียใจล่ะไม่เท่าไหร่ เสียรู้ล่ะก็น่าเจ็บใจ
สำหรับผู้ที่เริ่มเลี้ยงควรจะหาไม้ที่ดัง ๆ
และคุณภาพค่อนข้างดีเอาไว้บ้าง เช่น นายเมือง หนึ่งในจักรวาล น้อมเกล้า สาวเอเซีย
อัญมณีและพรรณราย เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ที่ดีในการผสม
หากต้องการทราบความเคลื่อนไหวของวงการโป๊ยเซียนว่าง ๆ ก็ลองไปเดินจตุจักรดูบ้าง
กลุ่มผู้ปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนที่นี่มีไม่น้อยเลย…
Post a Comment